fic bap lojae ว่าด้วยเรื่องของแรง - fic bap lojae ว่าด้วยเรื่องของแรง นิยาย fic bap lojae ว่าด้วยเรื่องของแรง : Dek-D.com - Writer

    fic bap lojae ว่าด้วยเรื่องของแรง

    ใครว่ายูยองแจฉลาดที่สุด ไม่จริงหรอก.. ยังมีอีกคนหนึ่งที่ฉลาดยิ่งกว่า!

    ผู้เข้าชมรวม

    1,515

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.51K

    ความคิดเห็น


    21

    คนติดตาม


    17
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  7 พ.ค. 56 / 21:24 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น








    SF B.A.P LO X JAE 

    ว่าด้วยเรื่งของแรง..










    ใครว่ายูยองแจฉลาดที่สุด ไม่จริงหรอก.. ยังมีอีกคนหนึ่งที่ฉลาดยิ่งกว่า!

















    เรื่องนี้มียองแจเป็นนางเอก!
    ไม่ชอบก็ปิดได้






     
     นั่งๆเรียนเรื่องแรงเสียดทานอยู่
     ก็เกิดไอเดียบรรเจิด
    อยากจิแต่งโล่แจขึ้นมาเฉยเลย
    ด้วยความที่แจมันฉลาดขนาดเน้
          ไม่รู้สนุกไม่สนุกไงก็อย่าลืมเม้นเป็นกำลังใจด้วยน้าาา
     อาจจะเป็นช๊อดฟิคที่แปลกๆหน่อย
    หวังว่ารีดเดอร์จาชอบนะ
    ^__________^








    ทวง ถาม ติดตาม ในทวิตได้เลย @G_CDMcdm 
    มาคุยกันก็ได้นะ ^..^




     
    > {block:ifinfinitescrolling} >{/block:ifinfinitescrolling} {title} type="application/rss+xml" href="{RSS}"> {block:Description}{/block:Description}
    Doodle Tumblr Themes
    {block:Posts}
    {block:IndexPage} {/block:IndexPage}
    {block:Title}{Title}{/block:Title}
    {block:Text}{Body}{/block:Text} {block:Photoset}{block:IndexPage}{Photoset-500}{/block:IndexPage}{block:PermalinkPage}{Photoset-500}{/block:PermalinkPage}{block:PermalinkPage}{/block:PermalinkPage}{/block:Photoset} {block:Photo}{block:IndexPage}
    {/block:IndexPage} {block:PermalinkPage} {LinkOpenTag} {PhotoAlt} {LinkCloseTag} {/block:PermalinkPage} {/block:Photo} {block:Quote}
    "{Quote}"
    {block:Source}
    -{Source}
    {/block:Source}
    {/block:Quote} {block:Video} {Video-500}
    {PlayCountWithLabel} {/block:Video} {block:Link} {block:Description}{Description}{/block:Description} {/block:Link} {block:Chat} {block:Lines} {block:Label}
    {Label} {/block:Label} {Line} {/block:Lines} {/block:Chat} {block:Audio} {AudioPlayerWhite}
    {block:Artist} Artist: {Artist}
    {/block:Artist}
    {block:Caption}{Caption}{/block:Caption} {/block:Audio} {block:Answer} {Asker}: {Question}
    {Answer} {/block:Answer} {block:PostNotes}
    {Caption}
    {block:NoteCount}{NoteCountWithLabel}{/block:NoteCount}, {block:HasTags} tagged as: {block:Tags}{Tag}. {/block:Tags}
    {/block:HasTags} {block:RebloggedFrom} reblogged from {ReblogParentName}
    originally posted by {ReblogRootName}{/block:RebloggedFrom} posted on {Month} {DayofMonth}, {Year}

    {PostNotes}

    {block:ContentSource}
    {lang:Source}: {block:SourceLogo} {SourceTitle} {/block:SourceLogo} {block:NoSourceLogo} {SourceLink} {/block:NoSourceLogo} {/block:ContentSource}
    {/block:PostNotes}
    {/block:Posts}
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
           




              วันนี้เป็นวันที่อากาศไม่สดใสเท่าไหร่ มีพายุลูกใหญ่กำลังพัดโหมกระหน่ำอยู่นอกหน้าต่างนั่น เหล่าสมาชิกบีเอพีที่ถูกยกเลิกตารางงานจึงมารวมตัวกันอัดแน่นกันอยู่ในห้องนั่งเล่นเพื่อดูหนังสงครามเรื่องใหม่ที่พี่ใหญ่อย่างยงกุกพึ่งจะไปถอยออกมาจากร้านขายดีวีดีสดๆร้อนๆเมื่อเช้านี้ โดยมีพี่ใหญ่คนรองอีกคนคอยบ่นกระปอดกระแปดอยู่ข้างๆ 




        ในที่สุดยูยองแจคนนี้ก็มีเวลาพักผ่อนดูหนังกับเขาเสียที! 




         “ทำไมเราจะต้องมาดูหนังสงครามกันในเวลาแบบนี้ด้วยนะเนี่ย” ฮิมชานท้วง 



         “มีหนังอีกหลายแบบหลายสไตล์เลยนะ ที่เหมาะกับเวลาอย่างนี้น่ะนะ” 



          นั่นไง พี่ฮิมชานเริ่มชี้โพรงให้กระรอกแล้ว.. 




         “อ่า.. ก็จริงนะครับ” และกระรอกซื่อตัวแรกที่หลงเข้าโพลงก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก.. มุน จงออบ คิดแล้วยองแจคนนี้ชักจะเริ่มเครียดแล้วล่ะ 



          “ใช่ๆ เราควรจะดูหนังสยองขวัญกันมันถึงจะถูก ใช่มั้ยพี่ฮิมชาน” 

              ปากแบบนี้ไม่น่าต้องถามนะว่าเป็นใครที่สามารถออกความเห็นได้ห่วยแตกขนาดนี้ แถมยังมีหน้าหันไปถามคนอื่นอีก นะจุดนี้ขอไว่อาลัยให้จองแดฮยอนสามวินาที 



           “ไม่ใช่เว่ย! ไอ้บ้า! ฉันหมายถึงหนังรักโรแมนติกต่างหากเล่า ” พี่ชายหน้าสวยโวยวาย 




                 ให้ตายเรื่องโวยวายต้องยกให้พี่แกจริงๆ สงสัยอยู่ว่าถ้าโนเบลมีรางวัลขี้โวยวายขึ้นมาเนี่ยจะมีสักครั้งมั้ยที่พี่เขาจะไม่ได้ 



          “เงียบเหอะเหยิน จากใจนะมันไร้สาระเกินไปว่ะ” หัวหน้าวงเอ่ยขัด 



          “แล้วหนังสงครามแกมันมีสาระตายเลยล่ะ ไอ้เงือกเอ้ย!” 



          “แต่ดีกว่าของแกล่ะกันน่า” พี่ยงกุกเถียง แล้วมีหรือที่พี่ฮิมชานจะยอม ฝันกลางวันยังจะง่ายซะกว่า 



           “ดีกว่าตรงไหน มีแต่ความรุนแรง! ป่าเถื่อน! ถ่อย! ไร้อารยธรรม! ไม่มีความเป็นผู้ดะ..” 



           “แล้วทีของแกเล่ามีแต่ตบตีแย่งผัวกัน เป็นวัณโรคบ้างแหละ รักต้องห้ามบ้างแหละ นำ้เน่าจะตาย ” 



       โอเคล่ะ.. ตอนนี้ถ้าไม่มีใครห้ามทัพสองคนนี้ละก็ เราคงได้ดูหนังแอคชั่นโฟร์ดีแบบทะลุจอกันแน่ๆ 



          “มันใช่แบบนั้นซักหน่อย แกมันจะไปรู้อะไรกันเล่าไอ้พวกไม่มีรสนิยมเอ้ยยย!” ฮิมชานตะเบ็งเสียง 



          “ นี่พี่ครับ เราจะได้ดูหนังกันไหมเนี่ย เลิกทะเลาะกันเป็นเด็กๆได้แล้ว ดูจงออบเป็นตัวอย่างบ้างสิ” ผมพูดเสียงเรียบ 



             ได้ผลแหะ ทั้งสองหยุดชะหงักพร้อมกันก่อนจะหันไปมองจงออบที่นั่งฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีอยู่ข้างแดฮยอน แล้วค่อยๆกลับมานั่งที่ตัวเองเงียบ 



          “เอา จองแดฮยอนเปิดแผ่นซะ เร็วๆเข้า” ได้โอกาสผมจึงใช้แรงงานแดฮยอนที่นั่งกินอยู่อย่างสบายใจเฉิบ 



        ถ้าฉันไม่ได้กินแกก็ต้องไม่ได้กินเหมือนกันนั่นแหละ ฮ่า ฮ่า ฮ่า! 



         “นี่ นายจะดูจริง?” เสียงพี่ฮิมชานเรียกสติผมกลับมา 



         “แล้วพี่มีแผ่นไหมล่ะ” ผมถามเซ็งๆ 



         “อ่า..” เห็นมะ กะแล้วเชียว 



         ไม่ใช่ว่าผมอยากดูหนังสงครามหรอกนะแต่ตอนนี้ผมดูเรื่องอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ! 



               หลังจากที่แดฮยอนเดินไปหยิบป๊อปคอร์นถุงใหม่และขนมกรุบกรอบอีกเพียบแล้วมาเบียดตัวนั่งแทรกระหว่างผมและจงออบเสร็จเรียบร้อยในที่สุดหนังก็เริ่มซะที 



              ภาพทิวเขาสวยงามเริ่มปรากฎขึ้นบนจออย่างช้าๆ ชายหนุ่มสองคนเดินมาหยุดยืนอยู่ข้างกัน แล้วเอ่ยขึ้นด้วยนำ้เสียงเคร่งเครียด 




        แต่เดี๋ยวก่อนนะ.. นี่ผมลืมอะไรไปรึป่าว.. ลืมไปซะสนิทเลย.. 



          “พี่ครับ..” มักเน่ของวงเดินออกมาจากห้องนอนหัวยุ่งเหยิง 



          ใช่แล้วครับ..ชเวจุนฮงนั่นเอง 



         “มาดูการบ้านให้ผมหน่อยนะ พี่ยองแจ..” เด็กโย่งเอ่ยเสียงอ่อย 



                 เพราะเจลโล่มีการบ้านเลยไม่ได้รับอนุญาติให้ออกมาดูหนังรวมกับพี่ๆคนอื่นๆ และเรื่องนั่นผม.. ก็เป็นคนบอกเอง เพราะกลัวว่ามันจะเรียนไม่ทัน 




          “แต่..” 




             ให้ตายเหอะ! ตอนนี้ผมกำลังสองจิตสองใจอย่างแรง! ไออยากดูก็อยากดูแต่จะไม่ช่วยน้องก็ไม่ได้อีก 



          “นะคร้าบบ.. ผมทำไม่ได้จริงๆง่ะ” เจ้ามักเน่เริ่มออดอ้อน 



              พอจะหันไปขอความช่วยเหลือจากไอ้พวกที่เหลือก็ไร้การตอบรับ ทุกคนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งสงครามเรียบร้อยซะแล้ว… 



              ในที่สุด.. ฝ่ายดีของผมก็ชนะจนได้ 



          “เฮ้อ~ โอเคๆ ไม่เข้าใจตรงไหน” ผมแบมือขอดูสมุดของเด็กโย่งตรงหน้า 



          “อ่า.. ในห้องได้มั้ยฮะ” ผมมองคนตรงหน้างงๆ 



          “คือ.. ตรงนี้เสียงมันดัง” ผมพึ่งสังเกตุว่าไอคนที่เหลือนะมัน..



               ดูหนังอย่างกะเชียร์มวย! 



          “ต้องอย่างงั้นสิ ยิงทิ้งแมร่งเลย!” 



          “น่ากลัวจัง เจ็บไหมนั่น..” 



          “เฮ้ย ไม่นะ..พระเอกจะตายไม่ได้สิ~” 



          “โด่วเอ้ย ทิ้งระเบิดแค่เนี่ยะตาย เป็นฉันนะวิ่งไปไกลแล่ว” 


        
       เสียงโวกเวกโวยวายดังมาไม่มีหยุดหย่อน ลองทายกันเองดูละกันว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร.. 



          “ได้ๆ เข้าไปสิ” ผมพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนจะดันหลังอีกคนให้เข้าไปในห้อง 



         “โอเคไม่เข้าใจตรงไหนล่ะ” ผมถาม 



         “ตรงนี้ครับ” เจลโล่ยื่นสมุดมาตรงหน้าผม 



         “เรื่องกฎของนิวตันนิใช่ไหม?” ผมถามยำ้อีกคน 



         “ข้อหนึ่ง สอง หรือสามล่ะ” เพื่ออะไรนะหรอ ก็ผมขี้เกียจอธิบายหมดไง แบบเสียงหนังข้างนอกน่ะมันยั่วยวนใจผมเสียเหลือเกิน 



         “ข้อที่สามครับ” ผมรับหนังสือมากดู ก่อนจะเริ่มอธิบายอย่างจริงๆจังๆ 



         “คือว่านะทุกๆแรงกริยาจะมีแรงปฏิกิริยาที่มีขนาดเท่ากัน แต่ทิศทางจะตรงกันข้ามบนคนละพื้นผิว”  ระหว่างที่ผมพูดไปเด็กนั่นก็เอาแต่พยักหน้าหงึกหงัก 



         “เอาล่ะ ดูๆแล้ว ก็เหมือนนายทำได้นิ”  ผมไล่เปิดดูสมุดแบบฝึกหัดดู 



        ก็ใช่อันที่จริงทุกข้อที่เด็กนี่ทำก็ถูกหมดเลย แล้วหมอนี่สงสัยอะไร 



          “พี่ยกตัวอย่างหน่อยได้ไหม?” ร่างสูงเอ่ย 



         “อ่า.. จะว่าไงดีล่ะ เช่น วัตถุดึงมือ โลกดึงวัตถุอ่ะ” อีกคนทำหน้างง 



         “อืม..ช้างดึงเชือก เชือกช้าง” ผมพยายามสันหาตัวอย่างมาอธิบายแล้วนะแต่เด็กนี่มัน! 



         “สมมติว่าพี่ตีนาย” ผมเอ่ยอย่างใจเย็นพร้อมกับตีแขนเจลโล่ประกอบการเรียนการสอน 



         “แขนนายก็ตีมือพี่เหมือนกัน” ผมยกมือขึ้นให้อีกฝ่ายดู ในใจก็แอบสะใจเล็กๆ 



         “งั้น…” ในที่สุดเด็กนั้นก็หลุดพูดอะไรออกมาเสียงเบา ผมตั้งใจเงี่ยหูฟังคำต่อไปแต่อีกคนกลับเงียบไป 



         “งั้น?” ผมทวนคำ แต่ไม่ทันได้สงสัยนาน 



        เจลโล่ก็ทำให้ผมกระจ่างขึ้นโดยการ..การ..การจูบผม! 



                ริมฝีปากของเด็กโย่งนั่นบดเบียดเข้ากับริมฝีปากผม และค่อยๆแรงขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ผมถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะระยะห่างที่มันเท่ากับศูนย์ 


       
       เดี๋ยว! 



            ในที่สุดผมก็ถึงบางอ้อ! ไอ้เด็กนี่ไม่ได้ไม่เข้าใจการบ้านเลยสักนิด ไม่น่าแปลกใจที่มันจะทำถูกทุกข้อ มันเข้าใจดีเลยแหละเข้าใจดีอย่างลึกซึง แต่ที่มันมาเรียกร้องขอคำอธิบายเนี่ยมันเป็นการเตรียมแผนไว้ล่วงหน้าแล้วเป็นอย่างดีต่างหาก! 



               และแล้วเมื่อหมดลมหายใจร่างสูงก็ผละออกมาจนได้ ไม่ทันได้ปล่อยให้อีกคนตั้งหลัก ผมก็เงื้อมือขึ้นฟาด แต่เจลโล่กลับจับข้อมีผมไว้ 



         “พี่จะมาเอาคืนผมไม่ได้นะ เพราะปากผมแตะปากพี่ ปากพี่ก็แตะปากผม มันเป็นกฏของนิวตันเชียวนะ พี่จะเถียงหรอ”  ผมทำได้แค่อ้าปากพะงาบๆ นึกคำด่าไม่ออกจริงๆ 



         “ผมไปดูหนังกับพวกพี่ๆข้างนอกดีกว่า.. ผมจะบอกอะไรให้นะความจริงการบ้านเนี่ยผมทำเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่พี่ยองแจไม่สนใจเองต่างหาก”   เด็กน้อยส่งยิ้มสดใสมาให้ 



        แต่สำหรับเขาตอนนี้อ่ะนะมันกวนเบื้องล่างโว่ยยยยย! 



         “ไอ้เด็กบ้า! ไอ้เด็กเวร! ไอ้เด็กเลี้ยงแกะโกหกหน้าไม่อายไหนบอกว่าไม่เข้าใจไงเล่า!” ผมโวยลั่น แถมเด็กบ้านั่นยังมีการเปิดประตูกลับเข้ามาพูดกับผมอีกว่า 



         “ไม่ได้บอกว่าไม่เข้าใจสักหน่อย แค่บอกว่าช่วยมาดูการบ้านให้หน่อย พี่อ่ะแหละ..คิดเองคนเดียว ผมน่ะ..ฉลาดจะตาย”  อยากจะเถียงแต่เถียงไม่ออก เพราะว่ามันก็เป็นความจริงแต่.. 




           ใครมันจะไปยอมกันเล่า! 




           “ไอ้เด็กเลวเอ้ยยย!!!” 







            END




            _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _ _

















      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×